วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

IP address windows 8

P Address เปรียบเสมือนบ้านเลขที่ที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องใชัระบุตัวตน ซึ่งวิธีดูนั้นง่ายมากครับ เรามาเริ่มกันเลยครับ
(วิธีนี้ใช้ได้ทั้ง Windows 7 และ Windows 8)
1.กดปุ่ม Windows + r จะได้หน้าจอแบบนี้ ให้พิมพ์คำสั่ง cmd
2.จะปรากฏหน้าจอด้านล่าง ให้พิมพ์คำสั่ง ipconfig
ip address windows 8
3.จะปรากฏ ip address ดังรูปip address windows 8

MAC ADDRESS

1. กด "windows + R" เพื่อเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ "cmd" และคลิก "OK"run
2. ในหน้าต่าง cmd พิมพ์ "getmac /v" แล้วกด Enter
"MAC addres" คือ Physical Address เลือกอันที่เป็นของอุปกรณ์ WI-FI ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบ “C4-17-FE-FF-FF-FF″cmd
Mac OS
1. กด Wi-Fi ไอคอน ด้านบนขวาของจอแล้วกด "Open Network References…"
2. กด "Advanced…" ในหน้าต่าง Network
3. MAC address คือ "Wi-Fi Address"
iOS
ไปที่ "Settings" -> "General" -> "About" แล้วเลื่อนลงมา MAC address คือ "Wi-Fi Address"mac_ios
Android
ไปที่ "Settings" -> "About phone" -> "Status" แล้วเลื่อนลงมา MAC address คือ "Wi-Fi MAC Address"mac_android
Windows Phone
ไปที่ "Settings" -> "about" -> "more info" mac_wp
BlackBerry
1. ไปที่ Optionsmac_bb1
2. เลื่อนลงไปเลือก Status mac_bb2
3. เลื่อนลงไปดูที่ WLAN MACmac_bb3

IP address windows 8

IP Address เปรียบเสมือนบ้านเลขที่ที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องใชัระบุตัวตน ซึ่งวิธีดูนั้นง่ายมากครับ เรามาเริ่มกันเลยครับ
(วิธีนี้ใช้ได้ทั้ง Windows 7 และ Windows 8)
1.กดปุ่ม Windows + r จะได้หน้าจอแบบนี้ ให้พิมพ์คำสั่ง cmd
2.จะปรากฏหน้าจอด้านล่าง ให้พิมพ์คำสั่ง ipconfig
ip address windows 8
3.จะปรากฏ ip address ดังรูป
ip address windows 8


Read more: http://www.thailandhowto.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%ab%e0%b8%b2-ip-address-windows-8/#ixzz3uFsWe98o

IP address windows 7

IP Address คือหมายเลขของเครื่องคอมพิวเตอร์ของเครื่องเรา ซึ่งทำให้เราสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของข้อมูลและบริหารจัดการได้ ลักษณะของหมายเลข IP Address เช่น 192.168.1.1 เป็นต้น ในบทความนี้เราจะมาดูวิธีการเช็ค IP อย่างง่ายในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ขั้นตอนแรก คลิกขวาสัญญาณเชื่อมต่อ อินเตอร์เนต แล้วเลือก Status  
  ขั้นตอนที่สอง เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว ให้เลือก คลิก Details ตามรูปภาพ  
ขั้นตอนสุดท้าย เท่านี้เราก็สามารถเห็น IP Address ของเครื่องเราได้แล้ว

IP address windows xp


  1. คลิกที่ Start แล้วทำการคลิกที่ Control Panel
  2. คลิกที่ Network and Internet Connections แล้วทำการคลิกที่ Network Connections.
  3. เมื่อมีกล่องไดอะล็อกของ Network Connections ขึ้นมา ให้คลิกขวาที่ Local Area Connection และคลิกที่ Repair 


         4.หลังจากการซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้ว ให้คลิกที่ Close



5.เมื่อยูสเซอร์กลับไปที่กล่องไดอะล็อกของ Network Connections ให้คลิกขวาที่ Local Area Connection และทำการคลิกที่ Status

6.เมื่อมีกล่องไดอะล็อกของ Local Area Connection ปรากฎขึ้นมาให้ทำการคลิกที่ Support แล้วจึงคลิกที่ Details....

7.เมื่อมีกล่องไดอะล็อกของ Network Connection ปรากฎขึ้นมา ให้ทำการตรวจสอบ IP address


IP ADDRESS

       IP Address ย่อมาจากคำเต็มว่า Internet Protocal Address คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP 
ถ้าเปรียบเทียบก็คือบ้านเลขที่ของเรานั่นเอง ในระบบเครือข่าย จำเป็นจะต้องมีหมายเลข IP กำหนดไว้ให้กับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการ IP ทั้งนี้เวลามีการโอนย้ายข้อมูล หรือสั่งงานใดๆ จะสามารถทราบตำแหน่งของเครื่องที่เราต้องการส่งข้อมูลไป จะได้ไม่ผิดพลาดเวลาส่งข้อมูล ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุด มีเครื่องหมายจุดขั้นระหว่างชุด  เช่น 192.168.100.1 หรือ 172.16.10.1  เป็นต้น  โดยหมายเลข IP Address ของเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีค่าไม่ซ้ำกัน สิ่งตัวเลข 4 ชุดนี้บอก คือ Network ID กับ Host ID ซึ่งจะบอกให้รู้ว่า เครื่อง computer ของเราอยู่ใน network ไหน และเป็นเครื่องไหนใน network นั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่า Network ID และ Host ID มีค่าเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า IP Address นั้น อยู่ใน class อะไร 
       เหตุที่ต้องมีการแบ่ง class ก็เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ เป็นการแบ่ง IP Address ออกเป็นหมวดหมู่นั้นเอง สิ่งที่จะเป็นตัวจำแนก class ของ network ก็คือ bit ทางซ้ายมือสุดของตัวเลขตัวแรกของ IP Address (ที่แปลงเป็นเลขฐาน 2 แล้ว) นั่นเอง โดยที่ถ้า bit ทางซ้ายมือสุดเป็น 0 ก็จะเป็น class A ถ้าเป็น 10 ก็จะเป็น class B ถ้าเป็น 110 ก็จะเป็น class C ดังนั้น IP Address จะอยู่ใน class A ถ้าตัวเลขตัวแรกมีค่าได้ตั้งแต่ 0 ? 127 (000000002 ? 011111112) จะอยู่ใน class B ถ้าเลขตัวแรกมีค่าตั้งแต่ 128 ? 191 (100000002 ? 101111112) และ จะอยู่ใน class C ถ้าเลขตัวแรกมีค่าตั้งแต่ 192 - 223 (110000002 ? 110111112) มีข้อยกเว้นอยู่นิดหน่อยก็คือตัวเลข 0, 127 จะใช้ในความหมายพิเศษ จะไม่ใช้เป็น address ของ network ดังนั้น network ใน class A จะมีค่าตัวเลขตัวแรก ในช่วง 1 ? 126 
       สำหรับตัวเลขตั้งแต่ 224 ขึ้นไป จะเป็น class พิเศษ  อย่างเช่น  Class D ซึ่งถูกใช้สำหรับการส่งข้อมูลแบบ Multicast ของบาง Application และ Class E ซึ่ง Class นี้เป็น Address ที่ถูกสงวนไว้ก่อน ยังไม่ถูกใช้งานจริง ๆ  โดย Class D และ Class E นี้เป็น Class พิเศษ ซึ่งไม่ได้ถูกนำมาใช้งานในภาวะปกติ

    ตัวอย่าง IP Address
    Class A ตั้งแต่ 10.xxx.xxx.xxx
    Class B ตั้งแต่ 172.16.xxx.xxx ถึง 172.31.xxx.xxx
    Class C ตั้งแต่ 192.168.0.xxx ถึง 192.168.255.xxx 

       จาก IP Address เราสามารถที่จะบอก ได้คร่าวๆ ว่า computer 2 เครื่องอยู่ใน network วงเดียวกันหรือเปล่าโดยการเปรียบเทียบ Network ID ของ IP Address ถ้ามี Network ID ตรงกันก็แสดงว่าอยู่ใน network วงเดียวกัน เช่น computer เครื่องหนึ่งมี IP Address 1.2.3.4 จะอยู่ใน network วงเดียวกับอีกเครื่องหนึ่งซึ่งมี IP Address 1.100.150.200 เนื่องจากมี Network ID ตรงกันคือ 1 (class A ใช้ Network ID 1 byte) 
   

     วิธีตรวจสอบ IP Address
    1.คลิกปุ่ม Start เลือก Run
    2.พิมพ์คำว่า cmd กดปุ่ม OK
    3.จะได้หน้าต่างสีดำ
    4.พิมพ์คำว่า ipconfig กด enter
    5.จะเห็นกลุ่มหมายเลข IP Address 





Hybrid topology

เครือข่ายแบบผสม (Hybrid Topology)

Star topology

เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว(Star Network)



Bus topology

เครือข่ายแบบบัส (bus topology)



Ring topology

เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology)

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อุปกรณ์เครือข่าย

อุปกรณ์เครือข่าย

 1.เน็ตเวิร์คการ์ด

 เน็ตเวิร์คการ์ด "NIC (Network Interface Card)” หรือบางทีก็เรียกว่า 
“LAN การ์ด (LAN Card)”

 2.  สายสัญญาณ  มีอยู่ ประเภท

2.1  สายคู่บิดเกลียว ( twisted   pair ) 
สายคู่บิดเกลียวชนิดหุ้มฉนวน   (Shielded  Twisted   Pair : STP) 
สายคู่เกลียวชนิดไม่หุ้มฉนวน  (Unshielded Twisted  Pair : UTP)


2.2   สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)


ทิศทางการส่งข้อมูล

ทิศทางของการส่งข้อมูล 
 การสื่อสารข้อมูลจากผู้ส่งไปยังผู้รับมีทิศทางการส่งข้อมูล (transmission mode) 3 รูปแบบ ดังนี้

1.การสื่อสารข้อมูลทางเดียว (simplea transmission)
2.การสื่อสารข้อมูลโดยการส่งข้อมูลสองทิศทางสลับกัน (half-duplex transmission) 


3.การสื่อสารข้อมูลโดยการส่งข้อมูลสองทิศทางพร้อมกัน (full-duplex transmission)

             


องค์ประกอบของระบบเครือข่าย

องค์ประกอบของระบบเครือข่าย ส่วนประกอบพื้นฐานของเครือข่ายท้องถิ่น ประกอบด้วย 1. เครื่องศูนย์บริการข้อมูล (Servers) 2. เครื่องลูกข่ายหรือสถานี (Clients) 3. การ์ดเครือข่าย (Network Interface Cards) 4. สายเคเบิลที่ใช้บนเครือข่าย (Network Cables) 5. ฮับและสวิตช์ (Hubs and Switches) 6. ระบบปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operating System) องค์ประกอบของระบบเครือข่าย

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558